

บทประพันธ์
บทประพันธ์ ตอนพระอภัยมณีได้นางเงือก
* ฝ่ายเงือกน้ำฟังยักษ์ตระหนักแน่ว่าพ่อแม่ม้วยมุดสุดสงสาร
ลงกลิ้งเกลือกเสือกกายเพียงวายปราณชลีลาญลาองค์พระทรงธรรม์
น้องจะขอไปเป็นเหยื่อผีเสื้อน้ำจะได้กล้ำกลืนข้าให้อาสัญ
ด้วยพ่อแม่ก็เข้าไปอยู่ในครรภ์ได้พบกันตามประสาชีวาวาย ฯ
*พงศ์กษัตริย์ตรัสห้ามด้วยความรักหวังจะหักอาดูรให้สูญหาย
โอ้น้องแก้วแววตาจะลาตายแสนเสียดายดังใครล้วงเอาดวงใจ
ถึงบิดามารดรสมรม้วยพี่จะช่วยปกป้องให้ผ่องใส
อยู่พึ่งบุญบารมีพระชีไพรเราจะได้เห็นกันทุกวันคืน ฯ
* นางเงือกน้ำกำสรดสลดจิตต์ครั้นทรงฤทธิร่ำปลอบก็ชอบชื่น
เอาความรักหักระกำให้กล้ำกลืนซบสอื้นอาไลยไม่ไคลคลา
* พระเห็นเงือกฟังคำซ้ำสงสารจึงวอนท่านโยคีมีคาถา
นางเงือกนี้มีคุณแก่ข้ามาขอฝากฝ่าบาทบงสุ์พระทรงธรรม์
ให้นางอยู่อู่อ่าวที่เหล่านี้พอเป็นที่อาไศรยใกล้หม่อมฉัน
เมื่อมีทุกข์ขุกเข็ญได้เห็นกันจะผ่อนผันทำวลให้พ้นไภย ฯ
* ฝ่ายโยคีมีพรตพจนาตถ์อนุญาตยิ้มย่องสนองไข
เป็นไรมีที่ตรงนั้นอย่าพรั่นใจมิให้ไภยบีฑาสีกาโยม
จะให้อยู่วลวังในจังหวัดเป็นเงือกวัดเถิดหนอนางสำอางโฉม
ที่วุ้งเวิ้งเชิงเขาริมเสาโคมเป็นของโยมอยู่ในน้ำให้สำราญ
แล้วเษกด้ายสายสิญจน์ให้สวมไว้ไม่มีไภยผาสุกสนุกสนาน
นางเงือกลาลงวลชลธารพระชวนหลานมาศาลาเข้าราตรี
ให้อยู่กุฎิ์ก่อใหม่ใต้ต้นโศกริมชะโงกเงื้อมเขาคิรีศรี
แขกฝรั่งทั้งสิ้นพลอยยินดีฝายไม่ตรีปรนนิบัติกษัตรา
พระอภัยสุริย์วงศ์องค์โอรสอยู่บรรพตพิสดารนานนักหนา
ให้ลูกน้อยค่อยเพียรเรียนวิชาตามประสาไสยเพทพระเวทมนต์
พระโยคีมีจิตต์คิดสงสารสอนกุมารสาระพัดไม่ขัดสน
ที่ลึกล้ำสำหรับแก้อับจนค่อยฝึกฝนสอนกันทุกวันไป ฯ
* ฝ่ายพระองค์ทรงโฉมประโลมโลกครั้นสร่างโศกเศร้าหมองค่อยผ่องใส
คิดถึงเงือกน้ำน้อยกลอยฤไทยจะเปลี่ยวใจกัลยาในวารี
ด้วยบิดามารดรสมรม้วยจำจะช่วยปลอบประโลมนางโฉมศรี
คนึงนึกตรึกตราในราตรีจรลีเลี้ยวมาข้างหน้าเนิน
พระเหลือบลงตรงโตรกชะโงกเงื้อมน้ำกระเพื่อมแผ่นผาศิลาเผิน
กระจ่างแจ้งแสงจันทร์แจ่มเจริญพระเพลิดเพลินพลางเรียกสำเหนียกใจ
นางมัจฉานารีของพีเอ๋ยเจ้าทรามเชยอยู่ที่นี่หรือที่ไหน
พี่มาเยือนเพื่อยากฝากอาไลยสายสุดใจจงขึ้นมาหาพี่ชาย ฯ
* ฝ่ายเงือกน้อยสร้อยเศร้าให้เหงาง่วงอยู่ในห้วงหุบวลชลสาย
ได้ฟังคำฉ่ำชื่นค่อยฟื้นกายจึงแหวกว่ายสายสมุทรผุดขึ้นมา
เห็นพระองค์ทรงนั่งอยู่เงื้อมเขาจึงเคียงเข้าข้างแท่นที่แผ่นผา
น้อมคำนับกลับคิดถึงบิดาชลนาไหลหลั่งลงพรั่งพราย
พระลดองค์ลงแอบแนบถนอมจงอดออมอาดูรให้สูญหาย
เจ้าพาพี่หนีรอดไม่วอดวายคุณของสายสวาทล้นคณนา
จะปกป้องครองคู่ไม่รู้ร้างไม่เว้นว่างวายประโลมโฉมมัจฉา
ประสายากฝากรักกันสองราแก้วกานดาดวงจิตต์อย่าบิดเบือน ฯ
* นางเงือกน้ำคำนับอัภิวาทเชิงฉลาดเหมือนมนุษย์นั้นสุดเหมือน
จึงตอบคำทำกระบวรแกล้งชวนเชือนพระมาเยือนเยี่ยมนี้น้องดีใจ
เหมือนบิดรมารดามาให้เห็นจะวายเว้นเวลาน้ำตาไหล
ขอเป็นข้ากว่าชีวินจะบรรไลยไม่ไปไกลบาทาฝ่าธุลี
ซึ่งทรงฤทธิ์คิดปองจะครองคู่แสนอดสูสาระพัดจะบัดสี
วิไสยสัตว์มัจฉาอยู่วารีจะยินดีด้วยมนุษย์นั้นสุดกลัว
เพราะต่างชาติวาสนาน้องน้อยนักอย่าริรักอนุกูลเลยทูลหัว
จะพลอยพาฝ่าลอองให้หมองมัวขอฝากตัวตามประสาเป็นข้าไท ฯ
* พระแย้มยิ้มพร้อมพรายว่าสายสวาทแสนฉลาดเหลือดีจะมีไหน
น่าสงสารวานอย่าว่าเป็นข้าไทมิใช่ใจพี่นี้หมายเป็นนายน้อง
ถึงต่างชาติวาสนาได้มาพบก็ควรคบเกียงชมประสมสอง
เจ้าโฉมงามทรามสงวนนวลลอองอย่าขัดข้องคิดหมางระคางใจ
ประเวณีมีทั่วทุกตัวสัตว์ไม่จำกัดห้ามปรามตามวิไสย
นาคมนุษย์ครุฑาสุราไลยสุดแต่ใจปรองดองจะครองกัน
เจ้ากับพี่นี้ก็เห็นเป็นกุศลจึงหนีพ้นมารมาไม่อาสัญ
จะเคียงคู่ชูชื่นทุกคืนวันโอ้เจ้าขวัญไนยนาได้ปราณี
พลางอิงแอบแนบน้องประคองเคล้าค่อยต้องเต้าเต่งอุรามารศรี
พระเชยปรางทางฉะอ้อนอ่อนอินทรีย์ร่วมฤดีเดือนหงายสบายใจ
อัศจรรย์ครั่นครื้นเป็นคลื่นคลั่งเพียงจะพังแผ่นผาสุธาไหว
กระฉอกฉาดหาดเหวเป็นเปลวไฟพายุใหญ่เขยื้อนโยกกระโชกพัด
เมขลาล่อแก้วแววสว่างอสูรขว้างเขวี้ยงขวานประหารหัด
พอฟ้าวาบปลาบแปลบแฉลบลัดเฉวียนฉวัดวงรอบขอบพระเมรุ
พลาหกเทวบุตรก็ผุดพุ่งเป็นฝนฟุ้งฟ้าแดงดังแสงเสน
สีขรินทร์ อิสินธรก็อ่อนเอนยอดระเนนแนบน้ำแทบทำลาย
สมพาสเงือกเยือกเย็นเหมือนเล่นน้ำค่อยเฉื่อยฉ่ำชื่นชมด้วยสมหมาย
สัมผัสพิงอิงแอบเป็นแยบคายไม่เคลื่อนคลายคลึงเคล้าเยาวมาลย์
จนดาวเดือนเลื่อนลับพยับฟ้าจึงโลมลากลับหลังยังสถาน
แต่เช้าไปค่ำมาอยู่ช้านานจะประมาณเจ็ดเดือนไม่เคลื่อนคลา ฯ
ที่มา http://www.thaigoodview.com/library/studentshow/2549/m6-1/no24-30-39/243239/praapai/sec04p11.htm